การเลือกขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับห้องที่จะติดตั้งนั้นเป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้ได้ความเย็นที่เหมาะสม, ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศให้ยาวนานแล้ว ยังช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย หาก BTU ที่เลือกไม่เหมาะสมกับห้อง อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ค่ะ

  • ในกรณีที่ BTU ที่สูงเกินไป คอมเพรสเซอร์ จะตัดและต่อการทำงานบ่อยเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลงและทำให้ความชื้นภายในห้องสูง ไม่สบายตัว และสิ้นเปลืองพลังงาน

  • ในกรณีที่ BTU ที่น้อยเกินไป คอมเพรสเซอร์ จะทำงานตลอดเวลา เพราะความเย็นภายในห้องไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ หรือใช้เวลานานกว่าที่แอร์จะสามารถทำให้อุณหภูมิในห้องๆ นั้นถึงจุดองศาที่ ตั้งไว้ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และทำให้แอร์ของเราเสียเร็วขึ้นค่ะ

โดยเริ่มแรกนั้น เราจำเป็นต้องรู้ขนาดของห้องกันก่อน เมื่อกะระยะของห้องได้แล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องพิจารณาคือ “ตัวแปรความร้อน” ค่ะ

  1. จำนวนและขนาดของหน้าต่างหรือกระจก

  2. ทิศของแดดส่องหรือตำแหน่งที่ตั้งของห้อง

  3. ความสูงของเพดานและวัสดุหลังคามีฝ้าหรือมีฉนวนกันความร้อนหรือไม่

  4. จำนวนของคนที่ใช้งานภายในห้อง

  5. จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้เกิดความร้อนภายในห้อง เช่น ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

จากนั้นจึงมาเข้าสูตรคำนวณหา BTU ของแอร์กัน

ตัวแปรความร้อนในที่นี้ มีคนคิดตัวเลขไว้ให้เราเป็นมาตรฐานตามนี้ค่ะ

  • 600 สำหรับ ห้องนอนหรือห้องที่มีความร้อนน้อย ห้องที่ไม่โดนแดดและเปิดใช้เฉพาะกลางคืนเป็นหลัก

  • 800 สำหรับ ห้องที่มีความร้อนน้อย-ปานกลาง ห้องที่โดนแดดเล็กน้อย-ปานกลาง

  • 1000 สำหรับ สำนักงาน ห้องประชุม ห้องครัว ห้องออกกำลัง หรือห้องที่มีความร้อนมาก/เพดานฝ้าสูง

  • 1200 สำหรับ โชว์รูม ร้านค้า ร้านอาหารที่มีการเปิดเปิดประตูบ่อย หรือสำนักงานที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก

*แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเลขอาจจะปรับเปลี่ยนให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ณ เวลาที่ได้คำนวณด้วยนะคะ

นอกจากนี้ เราได้คำนวณ แล้วทำเป็นตารางเปรียบเทียบการเลือกขนาด BTU กับพื้นที่ห้องให้แล้ว ตามด้านล่างนี้ค่ะ

หรือง่ายกว่านั้น ก็สามารถเข้าไปกดคำนวณหา BTU อย่างสะดวกสบาย เข้าใจได้ง่าย จาก Daikin ตามลิ้งด้านล่างได้เช่นกันค่ะ
https://www.daikin.co.th/service-btu-calculation/